เรียกว่าต้องลุ้นท็อปโฟร์หนักเลยงานนี้สำหรับทางด้านหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากที่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นงานสบายแล้ว เมื่อในเกมสัปดาห์ล่าสุดพวกเขาทำได้แค่เปิดรังแอนฟิลด์เสมอกับช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ไปแบบไม่มีสกอร์ทำให้เก็บได้เพียงสองแต้มจากสองเกมหลัง และมีโอกาสที่จะถูกทีมอันดับห้าอย่างสิงห์บลุส์ เชลซี ปาดหน้าจบอันดับสี่ได้
ทั้งนี้สถานการณ์ลุ้นพื้นที่สี่อันดับแรกใน ตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในช่วงหลายเดือนก่อนถือว่าดูดีทีเดียว เมื่อทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยึดอันดับสามมายาวๆ และทำแต้มทิ้งห่างทีมอันดับห้าไปกว่าสิบแต้ม
แต่ทว่าหลังผ่านเกมสัปดาห์ล่าสุด กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องลุ้นหนักทีเดียวเมื่อทำได้เพียงเปิดบ้านผลบอลเสมอกับช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ไปแบบไม่มีสกอร์ช่องว่างระหว่างคะแนนกับทีมอันดับห้า เชลซี จึงลดลงเหลือเพียงหกแต้มแล้ว ทั้งสิงห์บลูส์ยังลงแข่งน้อยกว่าอยู่หนึ่งเกมด้วย
โดยเกมดังกล่าว เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) นายใหญ่หงส์แดงจัดทัพแบบหมุนเวียนนักเตะในบางตำแหน่งเพื่อเตรียมรับมือเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกสองที่จะบุกไปเยือนอาแอส โรม่ากลางสัปดาห์ นักเตะสำรองอย่างรักนาร์ คลาวาน อัลแบร์โต้ โมเรโน่ และโจ โกเมซได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
แต่ขณะเดียวกันตัวหลักหลายรายก็ยังได้สตาร์ทตัวจริงโดยเฉพาะในเกมรุกที่ทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่างลงประจำการทั้งคู่ จะขาดก็แต่ ซาดิโอ มาเน่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และยังไม่กลับมาสมบูรณ์เต็มร้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อเกมเริ่มคิกออฟขึ้น ทีมเยือนที่กำลังดินรนหนีการตกชั้นสามารถสู้กับเจ้าบ้านได้อย่างสนุกสูสีทั้งในส่วนเกมรับ และเกมรุกแม้ว่ารูปเกมโดยรวมตลอดทั้งเกมจะเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอล ครองเกมได้มากกว่าอย่างชัดเจน
ทำให้บทสรุปของผลบอลที่ออกมาต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้จบด้วยเจ๊ากันไป 0-0 สถานการณ์ในตารางคะแนนหลังเกม จึงเป็นว่า หงส์แดง ยังต้องลุ้นเหนื่อยสุดๆกับเป้าหมายจบท็อปโฟร์เพื่อตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ขณะที่ สโต๊ค ซิตี้ ก็ยังมีโอกาสอยู่รอดแม้ว่าจะยังจมอยู่ในโซนตกชั้น